ในส่วนตรงนี้ โรแบร์โต เด แซร์บี้ เฉือนชนะไปด้วยความหลากหลายของรูปแบบ จะเป็นแนวรับ 4 ตัว หรือแนวรับ 3 ตัวก็ได้ทั้งนั้น แม้ว่าทั้งคู่ชื่นชอบให้ทีมเล่นแบบเน้นการครองบอลเหมือนกัน แต่รูปแบบในสนามของ รูเบน อโมริม มักเป็นระบบเดียวคือ เน้นกระจายบอลจากแดนหลัง เพื่อป้องกันการเสียประตูมากกว่า

แท็คติค: รูเบน อโมริม ชนะ

เหมือนดั่งที่ บรูซ ลี เคยกล่าวเอาไว้ เขาไม่กลัวคนฝึกท่าเตะ 1,000 รูปแบบ แต่กลัวคนฝึกท่าเตะ 1 รูปแบบ 1,000 ครั้งมากกว่า ดูเหมือน รูเบน อโมริม จะแก้เกมและมีความยืดหยุ่นในแผนได้ดีทีเดียว ระบบในสนามเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ไล่ตั้งแต่ 3-4-3, 3-5-2, 5-3-2 หรือจะ 5-4-1

จิตวิทยา:  รูเบน อโมริม ชนะ

จริง ๆ ผมก็ชอบความนุ่มนวลนอกสนามของ เด แซร์บี้ นะ แต่ความดุยังอาจไม่เท่า อโมริม ที่ได้รับการยกย่องอย่างมากว่า จัดการผู้เล่นภายในทีมได้ดีสุด ๆ ซึ่งตรงนี้ เด แซร์บี้ อาจต้องยังพิสูจน์อีกหน่อย เพราะจนถึงตอนนี้ เขายังไม่มีโมเมนต์ที่โดดเด่นในด้านคาร์แรคเตอร์ ที่มองไปแล้วสัมผัสได้ถึงความพร้อมในการเป็นหัวเรือใหญ่ให้กับบิ๊กทีม

พัฒนานักเตะ: โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ชนะ

ทั้งคู่เก่งกาจในเรื่องนี้เป็นอย่างดีเลยครับ เหมาะเหม็งกับการเข้ามาคุมทีมชั้นนำในอังกฤษ แต่ทว่าเราต้องให้เครดิตกับ กุนซือไบรท์ตัน ตรงที่เขามีสายตาที่เฉียบขาดในการซื้อ, เลือกผลักดันผู้เล่นดี ๆ อาทิ มอยส์ ไกเซโด้, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ หรือ คาโอรุ มิโตมะ จนสปอร์ตไลท์ในยุโรปสาดไปหาแทบทุกคน

โทรฟี่แชมป์: รูเบน อโมริม ชนะ

อาจจะมองว่าไม่แฟร์กับ เด แซร์บี้ หรือเปล่า? เพราะ อโมริม ได้คุม สปอร์ติ้ง ลิสบอน เลยนะ แถม ไบรท์ตัน จะเอาอะไรไปสู้พวกพี่บิ๊กใน EPL ล่ะ? ช้าก่อนครับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เองก็ห่างแชมป์ไปหลายปี และหากวัดกันสมัยเป็นนักเตะ อโมริม ก็มีประสบการณ์คว้าแชมป์หลายสมัยในระดับเทียร์ที่สูงกว่าด้วย รสชาติของผู้ชนะและความมุ่งมั่นตรงนี้ ถือว่าได้เปรียบมากกว่าเท่านั้นเองครับ และด้วยอายุแค่ 39 ปี แต่พาทีมคว้าแชมป์ได้แล้วในฐานะโค้ช ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลย

วันนี้จากลากันเท่านี้ อย่าลืมคอมเมนต์บอกด้วยล่ะว่า คุณชอบใครมากกว่า?

เขียนโดย The Lite Team

LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง